วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

อัศวิน


อัศวิน ในทวีปยุโรปพัฒนาขึ้นในช่วงสมัยกลาง ก่อนปี ค.ศ. 1200 อัศวินเป็นชนชั้นทางสังคมหนึ่งต่างหากที่อยู่เหนือชาวนา แต่ก็ยังต่ำกว่าขุนนาง แต่หลังปี ค.ศ. 1200 ช่องว่างระหว่างอัศวินกับขุนนางก็สิ้นสุดลง จนกระทั่งสิ้นสุดสมัยกลาง อัศวินและขุนนางก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของชนชั้นสูงเช่นเดียวกัน

The incredible hulk


HULK(ฮัค)มนุษย์ยักษ์ตัวเขียวที่มีพลังมหาศาลที่อาละวาดจนควบคุมอารมฌ์ไม่ได้ บรูซ แบนเนอร์(เอ็ดเวิร์ด นอร์ตั้น)นักวิทยาศาสตร์ที่ใช้ชีวิตอยู่ในเงามืดเอาแต่คิดค้นวิธีที่จะรักษาอารมณ์ ในขณะที่พวกกระหายสงครามก็ไม่ปล่อยให้เขาได้อยู่อย่างสันติ หรือยอมให้ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับ เบตตี้ รอส (ลิฟ ไทเลอร์) หญิงคนรักของเขา ส่วนในโลกที่เต็มไปด้วยแสงสีและความศิวิไลซ์ ดิ แอ็บโดมิเนชั่น (ทิม ร็อธ) ก็ไล่ล่าคุณหมออัจฉริยะอย่างไม่ลดละ เขานี่แหละคืออสรพิษร้ายตัวฉกาจที่จะต่อกรกับ เดอะ ฮัค ให้ได้ ศึกระหว่างคู่อริจากหนังสือการ์ตูน ก็ประทุขึ้นเมื่อ บรูซ แบนเนอร์ จำเป็นต้องอาศัยพลังยอดมนุษย์ในตัวเข้าช่วยมหานครนิวยอร์คที่ถูกถล่มแหลกลาญ นี่แหละที่นักวิทยาศาสตร์จะต้องจำใจเลือกว่า จะใช้ชีวิตอย่างสงบเป็นบรูซ แบนเนอร์ หรือว่าจะเป็น HULK ตัวประหลาดไปตลอดกาล

Spider-Man


ไอ้แมงมุม/สไปเดอร์แมน (Spider-Man) หรือ ปีเตอร์ เบนจามิน ปาร์คเกอร์ (Peter Benjamin Parker) คือ ตัวการ์ตูนยอดมนุษย์สัญชาติอเมริกันของสังกัดมาร์เวลคอมิกส์ (Marvel Comics) สร้างขึ้นมาโดยสแตน ลี (Stan Lee) และสตีฟ ดิตโก (Steve Ditko) ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือการ์ตูน "อแมซซิงแฟนตาซี" (Amazing Fantasy) ฉบับที่ 15 (สิงหาคม 2505) ในปัจจุบันนี้ ไอ้แมงมุมถือเป็นหนึ่งในตัวละครยอดมนุษย์ที่โด่งดังที่สุดในโลก และยังคงประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์อีกด้วย

ในตอนที่ไอ้แมงมุมได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 60 ในเวลานั้น ตัวละครที่เป็นวัยรุ่นในหนังสือการ์ตูนยอดมนุษย์ของอเมริกามักจะมีบทบาทเทียบเท่าตัวประกอบเท่านั้น แต่การ์ตูนชุดไอ้แมงมุมได้พังกรอบเหล่านี้ออกไป โดยให้ตัวไอ้แมงมุม ซึ่งยังเป็นวัยรุ่นอยู่ มีบทบาทของวีรบุรุษตัวเอก ที่มี "ความสนใจเฉพาะตัว พร้อมกับการถูกปฏิเสธ ความขัดสน และความอ้างว้าง" ด้วยลักษณะเช่นนี้เอง ไอ้แมงมุมจึงสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้อ่านอายุน้อยได้[1]

นอกจากจะเป็นตัวละครในหนังสือการ์ตูนแล้ว ไอ้แมงมุมยังปรากฏตัวในสื่ออื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นแอนิเมชัน ละครชุดทางโทรทัศน์ คอลัมภ์การ์ตูนในหนังสือพิมพ์ วีดีโอเกม และภาพยนตร์ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง

มาร์เวลได้ตีพิมพ์หนังสือการ์ตูนชุดไอ้แมงมุมออกมาจำนวนหนึ่ง โดยชุดแรกมีชื่อว่า "ดิอแมซซิงสไปเดอร์แมน" (The Amazing Spider-Man) ในหนังสือการ์ตูนแต่ละชุด จะแสดงให้เห็นพัฒนาการของตัวละครปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ตั้งแต่เป็นนักเรียนขี้อาย นักศึกษามีปัญหา ครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์[2] จนถึงสมาชิกของคณะยอดมุนษย์ที่ชื่อ "อเวนเจอร์ส" (Avengers) ส่วนในการ์ตูนชุด "สไปดี้เกิร์ล"(Spider-Girl) ปาร์คเกอร์ยังมีสถานะเป็นนักวิทยาศาสตร์และพ่ออีกด้วย

แมงมุมขยุ่มหลังคา


แมงมุม(Spiders)เป็นสัตวนักล่ากินอาหารจำพวก เพลี้ยอ่อน ตัวหนอน ผีเสื้อ แมลงวัน เป็นตัน โดยการชักใยเป็นข่ายดักจับสัตว์ที่เป็นเหยื่อ แมงมุมอยู่ในประเภท สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง แมงมุมไม่จัดเป็นพวกแมลง เพราะ แมงมุมมี 8 ขา พวกแมลงจะมี 6 ขา มีปีก และมีลำตัวเป็นออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนหัว อก และท้อง แต่แมงมุมจะมีช่วงลำตัวแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนหน้า ที่ประกอบไปด้วยส่วนหัวและอกที่เชื่อมติดกัน และส่วนหลัง คือ ส่วนท้อง และแมงมุมไม่มีปีก

จอระเก้


จระเข้ เป็นสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ในวงศ์ Crocodylidae ชอบอาศัยบริเวณป่าริมน้ำ ผิวหนังแข็งเป็นเกล็ด (osteoderm)ปากยาวและปลายปากนูนสูงขึ้นเป็นช่องเปิดของรูจมูก เรียกว่า ก้อนขี้หมา หางแบนยาวใช้โบกว่ายน้ำเพราะชอบหากินในน้ำ ในประเทศไทยมี 3 ชนิด คือ จระเข้บึง หรือ จระเข้น้ำจืด (Crocodylus siamensis) จระเข้อ้ายเคี่ยม หรือ จระเข้น้ำเค็ม (C. porosus) และ จระเข้ปากกระทุงเหว หรือ ตะโขง(Tomistoma schlegelii)

อูฐ


อูฐ (ภาษาอังกฤษ:camel) สัตว์ที่จัดอยู่ในตระกูลอูฐมีอยู่ 6 ชนิดประกอบด้วยกันคือ

1.อูฐโหนกเดียว (Arabian camel) เป็นอูฐที่มีถิ่นที่อยู่ในออสเตรเลีย และอารเบีย,
2.อูฐสองโหนก (Bactrian Camels) มีถิ่นที่อยู่ในแถบเอเชีย,
3.ลามา(Llama),
4.อัลปาคา (Alpaca),
5.วิคูนา(Vicuna),
6.กัวนาโค มีถิ่นที่อยู่ในอเมริกาใต้

กระทิงงงงงงงงงง


กระทิง (Gaur) เป็นวัวป่าชนิด Bos gaurus ในวงศ์ Bovidae ขนยาว ตัวสีดำหรือดำแกมน้ำตาล เว้นแต่ที่ตรงหน้าผากและครึ่งล่างของขาทั้ง 4 เป็นสีขาวเทา ๆ หรือเหลืองอย่างสีทอง เรีบกว่า " หน้าโพ " ขาทั้ง 4 ข้างตั้งแต่เหนือเข่าลงไปถึงกีบเท้ามีสีขาวเทาหรือเหลืองทอง ทำให้มองดูเหมือนสวมถุงเท้า สีขนของกระทิงบริเวณหน้าผากและถุงเท้าเกิดจากคราบน้ำมันในเหงื่อซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสัตว์ชนิดนี้ คอสั้น และมีพืม (เหนียงคอ) ห้อยยาวลงมาจากใต้คอ เขามีสีเขียวเข้ม ปลายเขามีสีดบริเวณโคนเขามีรอยย่นซึ่งรอยนี้จะมีมากขึ้นเมื่อสูงวัยขึ้น

กระทิงตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย ลูกที่เกิดขึ้นจะมีสีน้ำตาลแกมแดงเหมือนสีขนของเก้ง มีเส้นสีดำพาดกลางหลัง ลูกกระทิงขนาดเล็กจะยังไม่มีถุงเท้าเหมือนกระทิงตัวโต มีความยาวลำตัวและหัว 250 - 300 ซ.ม. หาง 70 - 105 ซ.ม. ความสูงจากพื้นถึงหัวไหล่ 170 - 185 ซ.ม. น้ำหนัก 650 - 900 ก.ก. โดยตัวผู้มีน้ำหนักมากกว่าตัวเมีย มีการกระจายพันธุ์ในภาคใต้ของจีน อินเดีย ภูฐาน เนปาล พม่า ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย โดยแบ่งออกได้เป็นพันธุ์ย่อย (Subspecies) 5 สายพันธุ์ คือ Bos gaurus laosiensis พบในพม่าถึงจีน Bos gaurus gaurus พบในอินเดียและเนปาล Bos gaurus readei, Bos gaurus hubbacki พบในไทยและมาเลเซีย และ Bos gaurus frontalis หรือกระทิงเขาทุย มีเขาที่สั้น เชื่อว่าเป็นลูกผสมระหว่างกระทิงกับวัวบ้าน พบมากในอินเดีย

โจรชลัดก้าบบบบบบบบบ...........


โจรสลัด คือบุคคลที่ปล้นหรือโจรกรรมในทะเล หรือบางครั้งตามชายฝั่งหรือท่าเรือต่างๆ โจรสลัดในปัจจุบันจะแตกต่างกับโจรสลัดในอดีตที่มีลักษณะเฉพาะคือจะมีผ้าคาดหัว ใช้ดาบใบกว้างหรือปืนพกและเรือโจรสลัดขนาดใหญ่ ในปัจจุบันโจรสลัดนิยมใช้เรือเร็ว และใช้ปืนกลแทนที่ดาบ

เป้าหมายส่วนใหญ่ที่โจรสลัดเลือกคือเรือสินค้าและเรือโดยสาร สำหรับรูปแบบที่ใช้ในการบุกเข้าปล้นมีทั้งชูธงหลอกล่อเป้าหมายว่าเป็นเรือสินค้าบ้าง เรือของกองทัพหรือของศาสนจักรบ้าง หรือแม้กระทั่งใช้กำลังบุกเข้าโจมตีโดยตรงเลยก็มีเช่นกัน

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

เต่าต้วมเตี้ยม


เต่า (ภาษาอังกฤษ Turtle) คือ สัตว์จำพวกหนึ่งในอันดับ (Order) Chelonia จัดอยู่ในจำพวกสัตว์เลือดเย็น และเป็นสัตว์เลื้อยคลานด้วย เต่านั้นถือเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนยาวมากที่สุดชนิดหนึ่ง โดยเต่าจะมีกระดูกที่แข็งคลุมบริเวณหลังที่เรียกว่า "กระดอง" ซึ่งประกอบด้วยแคลเซี่ยมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะสามารถหดหัว ขา และหางเข้าในกระดองเพื่อป้องกันตัวได้ แต่เต่าบางชนิดก็ไม่อาจจะทำได้

โดยมากแล้ว เต่า เป็นสัตว์ที่เคลื่อนไหวและเคลื่อนที่ได้ช้า อาศัยและใช้ช่วงชีวิตหนึ่งอยู่ในน้ำ ซึ่งมีอาศัยทั้งน้ำจืด และทะเล แต่เต่าบางชนิดก็ไม่ต้องอาศัยน้ำเลย เรียกว่า "เต่าบก" ซึ่งเต่าบกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือ เต่ายักษ์อัลดาบร้า (Geochelone gigantica) ที่อาศัยอยู่ตามหมู่เกาะในทวีปแอฟริกา ในขณะที่เต่าน้ำ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือ เต่าอัลลิเกเตอร์ (Macrochelys temminckii) อาศัยอยู่ตามหนองน้ำในทวีปอเมริกาเหนือ

เรือ


เรือ เป็นยานพาหนะที่ใช้ในทางน้ำ เรือโดยทั่วไปโครงสร้างประกอบด้วยตัวเรือเป็นโครงสร้างที่สามารถลอยน้ำได้ (ซึ่งอาจเป็นส่วนเดียวหรือสองส่วนขนาดกันก็ได้ แต่ไม่รวมถึงแพซึ่งปกติโครงสร้างลอยน้ำจะทำจากกระบอกกลวงหลายๆท่อนผูกติดกัน) กับ ส่วนที่เป็นการขับเคลื่อนของเรือ เช่น ไม้พาย (เรือพาย หรือ เรือแจว) เครื่องยนต์หางยาว (เรือหางยาว) ใบเรือ (เรือใบ) เป็นต้น

หมี


หมี จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์ที่มีแกนสันหลัง ชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จัดอยู่ในวงศ์ Ursidae ออกลูกมาเป็นตัว ตาและใบหูกลมเล็ก ริมฝีปากยื่นแยกห่างออกจากเหงือก สามารถยืนและเดินด้วยขาหลังได้ ประสาทการดมกลิ่นดีกว่าประสาทตาและหู กินพืชและสัตว์ ในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ หมีควาย (Selenarctos thibetanus) ตัวใหญ่ ขนยาวดำ ที่อกมีขนสีขาวรูปง่าม และ หมีหมา หรือ หมีคน (Helarctos malayanus) ตัวเล็กกว่าหมีควาย ขนสั้นดำ ที่อกมีขนสีขาวรูปคล้ายเกือกม้า

มังกร



มังกร (อังกฤษ: dragon) เป็นสัตว์วิเศษที่รู้จักกันในวรรณคดี มีรูปร่างลักษณะจัดอยู่ในประเภทสัตว์เลื้อยคลานหรืองู

ในตำนานยุโรป มังกรเป็นสัตว์อันตรายและน่าสะพรึงกลัวสำหรับมนุษย์ มังกรจึงเป็นศัตรูตัวฉกาจของเหล่าวีรบุรุษทั้งหลาย การฆ่ามังกรและขึ้นเถลิงราชย์เป็นกษัตริย์. มังกรจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์ ทั้งที่มีตัวตนจริง ๆ และในตำนานต่าง ๆ เช่น กษัตริย์อาเธอร์ ซึ่งมีนามสกุลว่า Pendragon มีความหมายว่า 'ศีรษะของมังกร' หรือ 'หัวหน้ามังกร' และมงกุฎของกษัตริย์อาเธอร์ ก็เป็นรูปมังกร.

เราพบมังกรได้ง่ายและบ่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นในตำนานของทางยุโรปหรือเอเชียก็ตาม เรียกว่าที่ใดมีอารยธรรมและตำนาน ที่นั่นก็ต้องมีมังกรเป็นของคู่กัน. มังกรนั้นมีรูปร่างและลักษณะหลายอย่าง แตกต่างไปตามความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น แต่โดยทั่ว ๆ ไปแล้วจะมีจุดเด่นคือ เป็นสัตว์ขนาดใหญ่ ร่างกายใหญ่โต มีพละกำลังมาก บางครั้งอาจพ่นไฟได้ หรือมีอำนาจเวทมนตร์มหาศาล และที่สำคัญคือ บินได้ (อาจจะมีปีกหรือไม่มีก็ได้) โดยขนาดรูปร่างและสีนั้น ก็แตกต่างกันไป

อย่างไรก็ตาม มังกรที่พบในตำนานของทางยุโรปและของทางเอเชียนั้น ค่อนข้างจะแตกต่างกันในแง่สัญลักษณ์ โดยเฉพาะคติของจีนที่มักจะถือว่า มังกรนั้นคือเทพเจ้า และเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมงคล รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิ (ซึ่งเป็นสมมติเทพ) แต่ทางยุโรปนั้นมักจะถือมังกรเป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้าย (อันเป็นคติที่สืบทอดมาจากความหวาดกลัวงูของชาวยุโรป)

พระอาทิตย์สุดร้อน


ดวงอาทิตย์ เป็นดาวฤกษ์ที่เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ ดาวเคราะห์ ดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะห์น้อย และดาวหาง ล้วนแล้วแต่โคจรรอบดวงอาทิตย์ทั้งสิ้น ดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ที่สำคัญยิ่งต่อโลก เช่น ให้พลังงานแก่พืชในรูปของแสง และพืชก็เปลี่ยนแสงให้เป็นพลังงานในการตรึงแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นน้ำตาล ตลอดจนทำให้โลกมีสภาวะอากาศหลากหลาย เอื้อต่อการดำรงชีวิต

ดวงอาทิตย์ประกอบด้วยไฮโดรเจนอยู่ร้อยละ 74 โดยมวล ฮีเลียมร้อยละ 25 โดยมวล และธาตุอื่นๆ ในปริมาณเล็กน้อย ดวงอาทิตย์จัดอยู่ในสเปกตรัม G2V ซึ่ง G2 หมายความว่าดวงอาทิตย์มีอุณหภูมิพื้นผิวประมาณ 5,780 เคลวิน (ประมาณ 5,515 องศาเซลเซียส หรือ 9,940 องศาฟาเรนไฮ) ดวงอาทิตย์จึงมีสีขาว แต่เห็นบนโลกเป็นสีเหลือง เนื่องจากการกระเจิงของแสง ส่วน V บ่งบอกว่าดวงอาทิตย์อยู่ในลำดับหลัก ผลิตพลังงานโดยการหลอมไฮโดรเจนให้เป็นฮีเลียม และอยู่ในสภาพสมดุล ไม่ยุบตัวหรือขยายตัว

ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากศูนย์กลางดาราจักรทางช้างเผือกเป็นระยะทางโดยประมาณ 26,000 ปีแสง ใช้เวลาโคจรครบรอบดาราจักรประมาณ 225-250 ล้านปี มีอัตราเร็วในวงโคจร 215 กิโลเมตรต่อวินาที หรือ 1 ปีแสง ทุกๆ 1,400 ปี

เทพีเสรีภาพฮะ


อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ หรือ เทพีเสรีภาพ เป็นอนุสาวรีย์ที่ยิ่งใหญ่ และมีคุณค่าทางจิตใจ ในภาษาอังกฤษ เรียกว่า Statue of Liberty แต่เดิมชื่อว่า Liberty Enlightening the World ตั้งอยู่ ณ เกาะเบคโล ปากอ่าวแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นของขวัญที่ชาวฝรั่งเศสมอบเอาไว้เป็นของขวัญ แก่ชาวอเมริกัน ในวันที่อเมริกาเฉลิมฉลองวันชาติครบ 100 ปี ณ วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2419 โดยส่งมอบอย่างเป็นทางการ โดยมี ประธานาธิบดีโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ในวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2429

เทพีเสรีภาพ เป็นประติมากรรมโลหะสำริด รูปเทพีห่มเสื้อคลุม มือขวาชูคบเพลิง มือซ้ายถือถือแผ่นจารึกคำประกาศอิสรภาพของสหรัฐฯ และมีอักษรสลักว่า "JULY IV MDCCLXXVI" หรือ วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2319(ค.ศ. 1776) เท้าข้างหนึ่งมีโซ่ที่ขาด แสดงถึงความหลุดพ้นจากการเป็นทาส สวมมงกุฎ 7 แฉกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทะเลทั้งเจ็ด หรือทวีปทั้งเจ็ด ภายในมีบันไดวนรวมทั้งสิ้น 162 ขั้น เกิดขึ้นตามแนวคิดของเอดูอาร์ด เดอ ลาบูลาเย นักประวัติศาตร์ ชาวฝรั่งเศส เพื่อระลึกถึงความสัมพันธ์ของสหรัฐอเมริกา และ ฝรั่งเศส ระหว่างการปฏิวัติอเมริกัน ออกแบบโดยเฟรเดริค ออกุสต์ บาร์โธลดี โครงร่างเหล็กออกแบบโดย เออแฌน แอมมานูแอล วิโอเลย์ เลอ ดุค และอเล็กซองเดรอะ กุสตาฟ แอฟแฟล ซึ่งเป็นผู้ออกแบบหอไอเฟล ในกรุงปารีส ส่วนฐานอนุสาวรีย์ สร้างโดยสหรัฐอเมริกา จารึกโคลงซอนเนต์ของกวีชาวอเมริกัน เอมมา ลาซารัส ซึ่งมีเนื้อหาต้อนรับผู้อพยพที่เข้าอยู่มาในอเมริกา

สาเหตุที่ทำให้ชาวฝรั่งเศสมอบเทพีเสรีภาพให้แก่สหรัฐอเมริกา เพราะว่า พวกเขาชื่นชมชาวอเมริกันที่หาญกล้าหาญ ที่ลุกขึ้นสู้กับสหราชอาณาจักร และประกาศอิสรภาพ จากสหราชอาณาจักรสำเร็จ เป็นชาติเอกราชในที่สุด ชาวฝรั่งเศส จึงรณรงค์หาเงินบริจาคจากทั่วประเทศ

ในการขนส่งจากฝรั่งเศส มายังสหรัฐอเมริกา เนื่องจากความใหญ่โตของอนุเสาว์รีย์ ทำให้ต้องแยกส่วนแล้วมาประกอบที่อเมริกา มีชิ้นส่วนรวมทั้งหมด 350 ชิ้น และนำมาประกอบขึ้นใหม่โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 4 เดือน แต่ส่วนฐาน พบว่ามีการสร้างเสร็จ ในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2429 โดยหมุดตัวสุดท้ายถูกประกอบเสร็จ ในวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2429

ปี พ.ศ. 2527 องค์การยูเนสโก ประกาศให้อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ เป็นมรดกของโลก ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมมากกว่า 800,000 คน

ตามปกติแล้ว ประชาชนสามารถขึ้นไปชมวิวบนส่วนหัวมงกุฎของเทพีได้ แต่หลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544 ทางการได้สั่งปิดอนุสาวรีย์ดังกล่าว ล่าสุด มีการเปิดให้นักท่องเที่ยว สามารถเดินทางไปที่เกาะ เพื่อชมความสวยงามของอนุสาวรีย์จากด้านล่างได้ แต่ยังตัวอนุสาวรีย์ยังปิดอยู่ รวมถึงพิพิธภัณฑ์ที่ส่วนฐานของอนุสาวรีย์ ด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัย

ฉลามกั้บ


ฉลาม (ภาษาอังกฤษ Shark) เป็นปลาในชั้นปลากระดูกอ่อนจำพวกหนึ่ง และมีฟันที่แหลมคม

ปลาฉลามบางชนิดจะมีเหาฉลามอาศัยอยู่ ปลาฉลามวอบบีกอง(Wobbegong shark)เป็นปลาฉลามที่พรางตัวให้กลืนกับท้องทะเล ปลาฉลามวาฬเป็นปลาฉลามที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ปลาฉลามอาจว่ายน้ำได้เร็วถึง 35 กม./ชม.ปลาฉลามส่วนใหญ่ออกลูกเป็นตัว มีบางชนิดที่ออกลูกเป็นไข่

ฉลามมีหลายชนิดเช่น

1.ปลาฉลามวาฬ (Whale shark)
2.ปลาฉลามวอบบีกอง (Wobbegong shark)
3.ปลาฉลามหางยาว (Thresher shark)
4.ปลาฉลามหิน (Nurse shark)
5.ปลาฉลามหัวค้อน (Hammerhead shark)
6.ปลาฉลามกินคน (Mako shark)
7.ปลาฉลามหัวบาตร (Bull shark)
8.ปลาฉลามครีบดำ (Blacktip reef shark)
9.ปลาฉลามเลมอน (Lemon shark)
10.ปลาฉลามขาวยักษ์ (white giant shark)
11.ปลาฉลามเสือ

เสือเขี้ยวดาบจ้า........


เสือเขี้ยวดาบ เป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ อาศัยอยู่ในทวีปยุโรป แอฟริกา เอเชียและอเมริกาเหนือ ในเขตทุ่งหญ้าสเตปส์ ทุ่งหญ้าสะวันนา ทุ่งหญ้าแพร์รี่ ป่าไม้ผลัดใบและป่าดงดิบ เมื่อราว 10,000 ปีก่อน

รูปร่างและขนาด ขาหน้ายาวกว่าขาหลัง หางสั้น ฟันเขี้ยวบนยาวแบนและโค้งแบบมีดดาบ ขึ้นชื่อว่าจู่โจมดุเดือด และฉีกกระชากเหยื่อด้วยฟันที่แหลมคมได้ฉับไว

อย่างไรก็ตาม โคลิน แม็กเฮนรี มหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ออสเตรเลีย ศึกษาเสือเขี้ยวดาบ พบว่าความจริงแล้ว เสือเขี้ยวดาบไม่ได้มีฟันกรามที่แข็งแรงในการขย้ำเหยื่อได้ดีไปกว่าแมวบ้านปัจจุบันเลย

นักวิจัยใช้คอมพิวเตอร์จำลองแบบฟันกราม กล้ามเนื้อ และกะโหลกของเสือเขี้ยวดาบ เปรียบเทียบกับสิงโตสมัยใหม่ พบว่า เสือเขี้ยวดาบไม่ได้มีกรามที่แข็งแรงอะไรนักหนา โดยมันจะเข้าตะครุบเหยื่อ และใช้ฟันเขี้ยวงับเข้าที่หลอดลมของเหยื่อเท่านั้นเอง ไม่ต่างจากเสือ และสิงโตสมัยใหม่

แมมมอธขอราบบบบ.........


ช้างแมมมอธ เป็นช้างที่อาศัยอยู่ในยุคน้ำแข็งเมื่อ 20,000 ปีก่อน แต่สูญพันธุ์ไปเพราะถูกมนุษย์ยุคหินล่า มีขนยาวปกคลุมเพื่อป้องกันความหนาวเย็น มีงายาวและโค้ง

การค้นพบซากแมมมอธ สามารถนำมาศึกษาวิจัยเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก เพราะแมมมอธเคยผ่านช่วงเวลานั้นมา

พ.ศ. 2550 ได้มีการพบซากลูกช้างสูง 130 เซนติเมตร และมีน้ำหนัก 50 กิโลกรัม ใกล้กับแม่น้ำยูริเบ ในเขตปกครองตนเอง ยามาล - เนเน็ต ทางตะวันตกเฉียงเหนือของไซบีเรีย โดย ยูริ คูดี

ช้างสี่งา


เตตระโลโฟดอน (Tetralophodon) หรือ ช้างสี่งา เป็นตัวแทนของกลุ่มบรรพบุรุษดั้งเดิมของช้างแท้ในปัจจุบัน ความสูงประมาณ 2.5 เมตร หัวของ เตตระโลโฟดอน มีลักษณะยาว ขากรรไกรบนและล่างยาวปานกลาง ( สั้นกว่า กอมโฟธีเรียม ) มีงา 4 อันหรือ 2 คู่จากขากรรไกรบนและล่าง ฟันกราม 2 ซี่แรก มีสันฟันในแนวขวาง 4 สัน ( ถ้า 3 สัน คือ กอมโฟธีเรียม ) แต่ฟันกรามซี่สุดท้ายจะมี 5 สัน และเชื่อว่า เตตระโลโฟดอน เป็นสัตว์ที่กินหญ้าอ่อนลำต้นสูง ซึ่งสูงเกินกว่าที่สัตว์อื่น ๆ จะกินได้

เตตระโลโฟดอน มีชีวิตอยู่ในยุคไมโอซีนช่วงกลาง ถึงไพลโอซีน (16-1.6 ล้านปีก่อน ) การกระจาย พบซากดึกดำบรรพ์ในยุโรป เอเชียและอเมริกาเหนือ ในประเทศไทยพบขากรรไกร ฟันและงา ที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา

เสือจอมโหด


เสือ (Tiger) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์ ฟิลิดี (Felidae) ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับแมวโดยชนิดที่เรียกว่าเสือมักมีขนาดลำตัวค่อนข้างใหญ่กว่าและอาศัยอยู่ภายในป่า ขนาดของลำตัวประมาณ 168 - 227 เซนติเมตรและหนักประมาณ 180 - 245 กิโลกรัม รูม่านตากลม เป็นสัตว์กินเนื้อ มีลักษณะและรูปร่างรวมทั้งพฤติกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากสัตว์ในกลุ่มอื่น หากินเวลากลางคืน มีถิ่นกำเนิดในป่า เสือส่วนใหญ่ยังคงมีความสามารถในการปีนป่ายต้นไม้ (ยกเว้นเสือชีต้า Cheetah) เสือทุกชนิดมีกรามที่สั้นและแข็งแรง มีเขี้ยว 2 คู่สำหรับกัดเหยื่อ ทั่วทั้งโลกมีเสืออยู่ประมาณ 37 ชนิด ซึ่งรวมทั้งแมวบ้านด้วย

เสือจัดเป็นสัตว์นักล่าที่มีความสง่างามในตัวเอง โดยเฉพาะเสือขนาดใหญ่ที่แลดูน่าเกรงขราม ไม่ว่าจะเป็นเสือโคร่งหรือเสือดาว ผู้ที่พบเห็นเสือในครั้งแรกย่อมเกิดความประทับใจในความสง่างาม แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดความหวาดหวั่นเกรงขามในพละกำลังและอำนาจภายในตัวของพวกมัน เสือจึงได้รับการยกย่องให้เป็นราชาแห่งสัตว์ปา และเป็นจ้าวแห่งนักล่าอย่างแท้จริง

ปัจจุบันจำนวนของเสือในประเทศไทยลดจำนวนลงเป็นอย่างมากในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี เสือกลับถูกล่า ป่าภายในประเทศถูกทำลายเป็นอย่างมาก สภาพธรรมชาติในพื้นที่ต่าง ๆ ถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ของมนุษย์เอง ทุกวันนี้ปริมาณของเสือที่จัดอยู่ในลำดับสุดท้ายของห่วงโซ่อาหารถือเป็นสิ่งจำเป็น เพราะการสูญสิ้นหรือลดจำนวนลงอย่างมากของเสือซึ่งเป็นสัตว์กินเนื้อ จะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างและระบบนิเวศทั้งหมด การลดจำนวนอย่างรวดเร็วของเสือเพียงหนึ่งหรือสองชนิดในประเทศไทย ทำให้ปริมาณของสัตว์กินพืชเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้ธรรมชาติเสียความสมดุลในที่สุด

ช้างๆๆ


ช้าง (Elephant) จัดอยู่ในประเภทสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ขนาดลำตัวใหญ่ ขนตามลำตัวสีเทา จมูกยื่นยาวเรียกว่า งวง ตัวผู้มีงายาวเรียก "ช้างพลาย" ถ้าไม่มีงาเรียก "ช้างสีดอ" ตัวเมียเรียก "ช้างพัง"

ประเภทและสายพันธุ์

ช้างปัจจุบัน

ช้างแอฟริกัน
ช้างเอเชีย

ช้างโบราณ

ช้างแมมมอธ
ช้างสี่งา ฯ

ลิงจอมซน


ลิง (Monkey) จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จัดอยู่ในอันดับ Primates ลักษณะท่าทางคล้ายคน (คนจัดอยู่ในอันดับ Primates) ตีนหน้าและตีนหลังใช้จับเกาะได้ ที่มีหาง เช่น วอก (Macaca mulatta) ที่ไม่มีหาง เช่น กอริลลา (Gorilla gorilla).

กลุ่มลิง
ลิงโลกเก่า คือ ลิงทางซีกโลกตะวันออกแถบทวีปเอเชียและทวีปแอฟริกา ไม่มีหาง มีพัฒนาการของนิ้วหัวแม่มือให้หันเข้าหากัน เพื่อช่วยในการจับสิ่งของ มีฟันกราม 2 ซี่ เช่นเดียวกับมนุษย์ และมีความสามารถในการมองเห็นได้ดีมาก อาจเป็นบรรพบุรุษของเอป (Ape) มีภาษาของมันเอง ลิงโลกเก่านั้นมีอยู่หลายชนิด เช่น ลิงแสม ลิงบาบูน และลิงแมนดริล
ลิงโลกใหม่ คือ ลิงที่พบทางแถบอเมริกาใต้ อาศัยอยู่บนต้นไม้ มีหางยาว และสามารถใช้หางช่วยในการยึดเหนี่ยว สมองในส่วนของประสาทที่เกี่ยวกับการมองเห็นพัฒนาการขึ้นอย่างเด่นชัด มีฟันกราม 3 ซี่ ลิงโลกใหม่ที่พบ ได้แก่ ลิงแมงมุม ลิงฮาวเลอร์ ลิงคาปูชิน และลิงคูรูกูลิส

ลิงในประเทศไทย
เมืองไทยมีลิงอยู่ 5 ชนิด คือ ลิงเสน ลิงกัง ลิงแสม
ลิงไอ้เงี้ยะ และลิงวอก

วาฬ


วาฬ (นิยมเรียกว่า ปลาวาฬ) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่ง ออกลูกเป็นตัว มีขนาดตัวที่ใหญ่มหึมา(สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก) วาฬถึงแม้ว่าจะเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในน้ำแต่วาฬไม่ใช่สัตว์ประเภทปลา และมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นปลาเสมอ สิ่งที่ทำให้วาฬไม่ใช่ปลา คือ วาฬ หายใจด้วยปอด ซึ่งเหมือนมนุษย์เรา วาฬจึงต้องขึ้นมาเหนือทะเลอยู่ตลอด

บรรพบุรุษของวาฬ เชื่อว่าเป็นสัตว์กินเนื้อบนบกในสมัย พาลิโอซีน เมื่อประมาณ65ล้านปีก่อน จากนั้นก็วิวัฒนาการเริ่มใช้ชีวิตแบบสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำภายในเวลาเพียง10ล้านปีต่อมาในสมัย อีโอซีน หรือเมื่อประมาณ55ล้านปีก่อน โดยจากสัตว์เลื้อยคลานครึ่งบกครึ่งน้ำจากนั้นขาหลังก็ค่อยหดและเล็กลงจนต่อมาเมื่อประมาณ 24-26ล้านปี ก่อนกระดูกและข้อต่อก็หดเล็กลงจนไม่มีโผล่ออกมาให้เห็น แต่ในปัจจุบันกระดูกส่วนของขาหลังก็ยังคงมีอยู่โดยเป็นอวัยวะภายในที่มีขนาดเล็ก และทำหน้าที่เพียงเป็นที่ยึดติดของอวัยวะสืบพันธุ์เท่านั้น

ปัจจุบันมีการจัดให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกว่า80ชนิดจัดอยู่ในกลุ่มวาฬ โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม

มิสติเซเตส หรือวาฬบาลีน โดยวาฬกลุ่มนี้มีลักษณะคือใช้แผ่นกระดูกเป็นซี่คล้ายหวีกรองอาหารจากน้ำทะเล โดยส่วนมากวาฬที่อยู่ในกลุ่มนี้จะเป็นวาฬขนาดใหญ่เช่น วาฬสีน้ำเงิน
โอดอนโตเซเตส หรือวาฬมีฟัน โดยมากจะเป็นวาฬขนาดเล็ก รวมทั้งโลมาทุกชนิด(โลมาขนาดใหญ่ที่สุดเรียกว่าวาฬเพชฌฆาต)

วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2551

ดาวอังคาร


ดาวอังคาร บางทีก็เรียกกันว่าดาวแดงเพราะผิวพื้นเป็นหินสีแดง หินบนดาวอังคารที่มีสีแดงก็เพราะเกิดสนิมท้องฟ้าของดาวดังคารเป็นสีชมพูเพราะฝุ่นจากหินแดงที่ว่านี้ ผิวของดาวอังคารเหมือนกับทะเลหินแดง มีก้องหินใหญ่และหลุมลึก ภูเขาสูง หุบ เหว และเนินมากมาย หนึ่งปีบนดาวอังคารเกือบเทาสองปีโลก แต่หนึ่งวันบนดาวอังคารจะนานกว่าครึ่งชั่งโมงโลกเพียงเล็กน้อยดาวอังคารมีอากาศห่อหุ้มอยู่ไม่มากและเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลมพัดแรงจัดทำให้ฝุ่นฟุ้ง ไปทั้งดวงดาว ดาวอังคารมีขนาดโตประมาณครึ่งหนึ่งของโลก ดาวอังคารอยูไกลดวงอาทิตย์มากกว่าโลกจึงทำให้มีบรรยากาศหนาวเย็น อุณหภูมิบนดาวดวงนี้จะต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง

โลกของเรา


โลก (Earth) เป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่สาม โดยโลกเป็นดาวเคราะห์หินขนาดใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ และเป็นดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวที่วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ยืนยันได้ว่ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ดาวเคราะห์โลกถือกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณ 4,570 ล้าน (4.57×109) ปีก่อน และหลังจากนั้นไม่นานนัก ดวงจันทร์ซึ่งเป็นดาวบริวารเพียงดวงเดียวของโลกก็ถือกำเนิดตามมา สิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาที่ครองโลกในปัจจุบันนี้คือมนุษย์

โลก มีลักษณะเป็นทรงวงรี โดย ในแนวดิ่งเส้นผ่าศูนย์กลางยาว 12,711 กม. ในแนวนอน ยาว 12,755 กม. ต่างกัน 44 กม. มีพื้นน้ำ 3 ส่วน หรือ 71% และมีพื้นดิน 1 ส่วน หรือ 29 % แกนโลกจะเอียง 23.5 องศา

สัญลักษณ์ของโลกประกอบด้วยกากบาทที่ล้อมด้วยวงกลม โดยเส้นตั้งและเส้นนอนของกากบาทจะแทนเส้นเมอริเดียนและเส้นศูนย์สูตรตามลำดับ สัญลักษณ์อีกแบบของโลกจะวางกากบาทไว้เหนือวงกลมแทน

วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2551

ม้า ฮี้ๆ


ม้า เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมซึ่งมีความหลากหลายทางสายพันธุ์ที่ถูกมนุษย์นำมาเลี้ยงและถูกใช้ในกิจกรรมการเดินทางขนส่ง การทหาร กีฬา สันทนาการและอาจจะใช้เป็นอาหารของมนุษย์ในบางวัฒนธรรมมานานนับพันปีแล้ว ปัจจุบันบทบาทของม้าถูกแทนที่ด้วยยานพาหนะแบบใหม่จน บทบาทลดลงไปเหลือเพียงทางกีฬาและสันทนาการโดยส่วนใหญ่ ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันเราจะเห็นม้าเป็นสัญลักษณ์ที่ควบคู่กับ คาบอย

วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2551

dragonball


ดราก้อนบอล เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น ผลงานของอากิระ โทริยามา ลงพิมพ์ในนิตยสารโชเนนจัมป์ตั้งแต่ พ.ศ. 2527 - พ.ศ. 2538 และรวมเป็นฉบับรวมเล่มได้ 42 เล่ม ในประเทศไทยเคยลงตีพิมพ์ใน ทาเล้นท์ และ ซีโร่ ในช่วงก่อนที่มีลิขสิทธิ์การ์ตูน และหลังจากนั้นได้ตีพิมพ์ในหนังสือการ์ตูนบูม ภายใต้ลิขสิทธิ์ของบริษัท เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด

เนื้อเรื่องของดราก้อนบอลเกี่ยวกับการผจญภัยของ ซุน โกคู ในการรวบรวมดราก้อนบอลให้ครบ 7 ลูก เพื่อขอพรหนึ่งข้อจากเทพเจ้ามังกร โดยระหว่างการเดินทางโกคูต้องพบกับเพื่อนฝูงและอุปสรรคต่างๆ

หมูๆ


สุกร หรือ หมู เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดในวงศ์ Suidae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Sus scrofa เป็นสัตว์กีบคู่ ตัวอ้วน จมูกและปากยื่นยาว มีทั้งที่เป็นสัตว์เลี้ยงและที่เป็นสัตว์ป่า หาอาหารโดยใช้จมูกดุด

สุกรแบ่งเป็นพันธุ์แท้ และพันธุ์ลูกผสม ประเภทของพันธุ์สุกร แบ่งออกเป็น

1.ประเภทพันธุ์มัน (Lard Type) ได้แก่สุกรพันธุ์พื้นเมือง พันธุ์ควาย พันธุ์ราด พันธุ์พวง พันธุ์กระโดน และพันธุ์ไหหลำ
2.ประเภทพันธุ์เบคอน (Bacon Type) ได้แก่ พันธุ์ลาร์จไวท์ และพันธุ์แลนด์เรซ
3.ประเภทพันธุ์เนื้อ (Meat Type) ได้แก่ พันธุ์ดูรอค พันธุ์แฮมเชียร์ และพันธุ์เพียแทรน

วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2551

ไดโนเสาร์สัตว์ล้านปี



บางท่านอาจจะสงสัยว่า ไดโนเสาร์ คืออะไร ในสมัยดึกดำบรรพ์มีจริงหรือไม่ สูญพันธุ์ ไปหมดแล้วจริงหรือ เราศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับไดโนเสาร์ได้อย่างไรและอีกหลากหลาย คำถามที่ต้องการค้นหาคำตอบ

คำว่าไดโนเสาร์ ถูกใช้ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2384 โดยนาย ริชาร์ด โอเวนนักกายวิภาค วิทยา ชาวอังกฤษ ตั้งขึ้นเพื่อใช้เรียกสัตว์ชนิดหนึ่งที่ขุดพบในรูปของซากดึกดำบรรพ์ เป็น โครงกระดูกขนาดใหญ่ โดยนายริชาร์ด ใช้คำว่า ไดโนเสาร์เพราะมาจากภาษาอังกฤษว่า dinosaurs เป็นคำผสมจากภาษากรีก ว่า deinos ซึ่งแปลว่า น่าเกลียดน่ากลัว กับคำว่า sauros แปลว่า กิ้งก่า ดังนั้น ไดโนเสาร์ จึงมีความหมายตามตัวอักษรว่า กิ้งก่าที่น่าเกลียด น่ากลัว ซึ่งอาจจะน่ากลัวในสายตาของนายริชาร์ด และอาจจะไม่น่ากลัวเลยในสายตาของนักวิทยาศาสตร์บางคน

ความรู้เกี่ยวกับไดโนเสาร์นั้น ส่วนใหญ่ได้มาจากซากดึกดำบรรพ์ที่เรียกตามศัพท์วิทยาศาสตร์ว่า ฟอสซิล ไม่ว่าจะเป็นฟอสซิลโครงกระดูก รอยเท้า เปลือกไข่ อุจจาระ ตลอดจนกลายสภาพเป็นหินแข็งอยู่ภายใต้ผิวโลก ครั้นเวลาผ่านไปเปลือกโลกมีการเคลื่อนตัว ซากฟอสซิลเหล่านี้จึงปรากฏบนพื้นผิวโลกให้เห็นตามที่ต่าง ๆ เป็นหลักฐานศึกษาการวิวัฒนาการของไดโนเสาร์ได้เป็นอย่างดี

ความจริงแล้วมนุษย์เคยค้นพบกระดูก และรอยเท้าไดโนเสาร์มาเป็นเวลานานแล้ว เพียง แต่ว่าผู้คนยุคต้น ๆ นั้น คิดว่าเป็นซากดึกดำบรรพ์ของกิ้งก่า มังกรหรือแม้กระทั่งนกกาเหว่า ยักษ์ จนกระทั่ง นายริชาร์ด ได้ให้ความเห็นว่า โครงกระดูกของสัตว์เหล่านั้น เป็นของสัตว์ กลุ่มหนึ่งที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงใกล้ชิดกับพวกกิ้งก่า

แต่ไม่จัดเป็นพวกกิ้งก่า ซึ่งถ้าดูจากโครงสร้างของโครงกระดูกตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน พอจะแยกออกได้เป็น 7 ลักษณะ

นักโบราณคดีและนักชีววิทยา ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับไดโนเสาร์ไว้ว่า ถ้าแบ่งช่วงเวลาที่ไดโนเสาร์มีชีวิตอยู่ในโลก จะแบ่งออก
ได้เป็น 3 ช่วง คือ

1. ช่วงไตรแอสสิก (Triaassic) เป็น
ช่วงแรกของการเกิดไดโนเสาร์ คือ
ประมาณ 250- 205 ล้านปีมาแล้ว ได้แก่


2. ช่วงจูราสสิก (Jurassic) เป็น
ช่วงที่ไดโนเสาร์มีชีวิตอยู่ประมาณ
205-135 ล้านปีมา แล้ว ในช่วงนี้มีไดโนเสาร์หลากหลายชนิด ทั้งมีเขาไม่มีเขา มีเกราะ ไม่มีเกราะ คอยาว คอสั้น ตลอดจนวิวัฒนาการไปเป็นสัตว์ปีก ได้แก่
3. ช่วงครีเตเชียส (Cretaceous)
เป็นช่วงที่ไดโนเสาร์มีชีวิตอยู่ประมาณ
135-66 ล้านปีมาแล้วเป็นช่วงสุดท้าย
ของไดโนเสาร์ซึ่งจะมีวิวัฒนาการสูงสุด
และสูญพันธุ์ไปในที่สุด ได้แก่



1. Herreraasaurus

2. Staurikosaurus

3. Coelophysis

4. plateosaurus

5. protoavis ฯลฯ



ไดโนเสาร์ ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดซึ่งถูกขุดพบที่ประเทศอาร์เจนตินา โดยนาย พอล เซเรโน นักโบราณคดีแห่งมหาวิทยาลัย ชิคาโก ขุดพบในปี พ.ศ. 2534 และให้ชื่อสัตว์ที่ขุดพบว่า อีโอแรพเตอร์

ชนิดใหม่ล่าสุดที่ขุดพบเมื่อเดือน เมษายน ปี 2536 มีชื่อว่า โมโนไนคัส (Mononycus) ซึ่ง นักวิทยาศาสตร์ลงความเห็นว่าคล้าย กับซากดึกดำบรรพ์ของนกโบราณชนิดหนึ่งที่ขุดพบ เมื่อปี พ.ศ. 2504 ซึ่งประมาณอายุได้ 150 ล้านปี นกโบราณชนิดนี้ คือ อาร์คีออฟเทอริกซ์ (Archaeopteryx)

ดังนั้น สายวิวัฒนาการของนกกับไดโนเสาร์จะต้องเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน แต่อะไรจะ เป็นต้นตระกูลของอะไรจะต้องหาหลักฐานกันต่อไป แต่ที่แน่นอนที่สุดไดโนเสาร์ไม่ได้ สูญพันธุ์ไปจากโลกจนหมดสิ้น นักโบราณคดีและนักชีววิทยาหลายท่านเชื่อว่ายังมีไดโนเสาร์ สายพันธุ์หนึ่งที่ยังคงสืบเชื้อสายอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้และมีอยู่เป็นจำนวนมากมายต่างพากันเรียก ไดโนเสาร์กลายพันธุ์ชนิดนี้ว่า นก แต่ต้นตระกูลนกจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นนกชนิด ใดก่อนนั้น เป็นเรื่องที่ต้องศึกษากันต่อไป

แจ็ก ฮอร์เนอร์ ซึ่งเป็นนักโบราณคดีและนักชีววิทยา รวมถึงนักวิทยาศาสตร์อื่นๆ ได้ให้ข้อสรุปเกี่ยวกับไดโนเสาร์ไว้อย่างน่าฟัง ถึงเหตุผลที่ทำให้ไดโนเสาร์สามารถอยู่รอดได้ถึง 150 ล้านปี

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ไดโนเสาร์ที่มีลักษณะใหญ่โตเหล่านั้น ก็สูญพันธุ์ไปสิ้นเมื่อ 65 ล้าน ปีที่แล้ว มีหลากหลายทฤษฏีที่ชี้แจงการสิ้นสุดของไดโนเสาร์ ทั้งทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ตลอดจนทฤษฎีดาวหางและอุกกาบาต แต่ดูเหมือนทฤษฎีหลังจะเป็นที่ยอมรับของนักวิทยาศาสตร์และประชาชนทั่วไป

แต่การสูญสิ้นของไดโนเสาร์นั้นยังไม่เป็นที่สนใจของนักวิทยาศาสตร์มากนักเพราะต่าง พากันมุ่งประเด็นไปที่การดำรงชีวิตของไดโนเสาร์ตรงที่ว่า ไดโนเสาร์มีอะไรดีจึงสามารถดำรง เผ่าพันธุ์ได้นานถึง 150 ล้านปี ยังเป็นปริศนาสำหรับนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะต้องหาข้อมูล จากซากดึกดำบรรพ์กันต่อไป

คราวนี้เรามารู้จักกับไดโนเสาร์พันธุ์ต่าง ๆ ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีตามพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ตัวแรกที่จะแนะนำให้รู้จักก็คือ

ไทแรนโนซอรัส (Tyrannosaurus rex)

อัลโลซอรัส (Allosaurus)

อะแพททอซอรัส (Aapatosarus)

ไทรเซอราทอปส์ (tricratops)

อิกัวโนดอน (Iguanodon)

เทอราโนดอน (pteranodon)

แม้เวลาจะผ่านไปถึง 65 ล้านปี คำว่า ไดโนเสาร์ ก็ยังถูกกล่าวถึงเสมอ ถึงแม้ว่ามันจะ เป็นสัตว์ที่น่าเกลียดน่ากลัว แต่ก็ยังไม่ร้ายเท่ามนุษย์ที่คอย แต่คิดค้นและสร้างสมแต่สิ่งที่นำ ไปสู่การทำลายตัวเองอยู่ตลอดเวลา และเมื่อใดที่โลกเต็มไปด้วยมลพิษที่เกินกว่ามนุษย์จะ ทนได้ ก็อาจสูญพันธุ์ไปในที่สุด... ดังเช่น... ไดโนเสาร...์ สัตว์โลกล้านปี...ที่ถูกบันทึกไว้ใน ความทรงจำของมนุษย์ตราบจนทุก...วันนี้

วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2551

สามก๊ก


สามก๊ก สามก๊กแต่งขึ้นประมาณช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 ในสมัยราชวงศ์หยวน โดย หลอกว้านจง กล่าวถึงประวัติศาสตร์จีนในยุคสามก๊ก (ค.ศ. 220-280) โดยเริ่มปูที่มาที่ไปตั้งแต่ยุคโจรโพกผ้าเหลือง (ค.ศ.183) เนื้อเรื่องเน้นการชิงอำนาจในช่วงปลายราชวงศ์ฮั่น ของก๊กต่างๆ อันประกอบด้วยวุยก๊ก (เว่ย์ ) จ๊กก๊ก (ฉู่) และง่อก๊ก (หวู) จนไปถึงการสถาปนาราชวงศ์จิ้นโดยสุมาเอี๋ยนหลานชายของสุมาอี้ (บุตรชายของสุมาเจียว) สามก๊กเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดวรรณกรรมจีนร่วมกับไซอิ๋ว ซ้องกั๋ง และความฝันในหอแดง บางคนบอกว่าสามก๊กเป็น บทเรียนตำราพิชัยสงคราม ภาคปฏิบัติ
สามก๊กฉบับต้นฉบับนั้น แต่งขึ้นโดย "เฉินโซ่ว" ชาวเสฉวนที่มีชีวิตอยู่ในยุคสามก๊กจริงๆ แต่เกิดไม่ทันฉากสำคัญหลายฉาก เขาเกิดหลังพระเจ้าเหี้ยนเต้ตกบัลลังก์ไปแล้ว ตระกูลของเขานั้นทำงานเป็นบริวารให้จ๊กก๊กของเล่าปี่ รวมทั้งตัวเขาด้วย แต่พ่อเขาบันทึกเรื่องราวการต่อสู้ของทั้งสามก๊กไว้อย่างละเอียดและเป็นจริง
ค.ศ. 264 แผ่นดินจ๊กก๊กที่เขาอยู่ประกาศยอมแพ้ต่อวุยก๊ก เฉินโซ่วและครอบครัว และชาวจ๊กก๊กอื่นๆ จึงถูกนำตัวไปที่วุยก๊ก ขณะนั้นสุมาเจียว อ๋องแห่งวุยก๊ก เสียชีวิตลง สุมาเอี๋ยนขึ้นเป็นวุยอ๋องแห่งวุยก๊กแทนแทน
ค.ศ. 265 สุมาเอี๋ยน ขับพระเจ้าโจฮวน ออกจากราชบัลลังก์และสถาปนาตนเป็นพระเจ้าจิ้นหวู่ตี้ จักรพรรดิพระองค์แรกแห่งราชวงศ์ใหม่ ราชวงศ์จิ้นตะวันตก และสามารถรวบรวมสามก๊กเป็นหนึ่งเดียวได้ พระเจ้าจิ้นหวู่ตี้ทรงโปรดให้เฉินโซ่ว รวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงศึกสามก๊กอย่างละเอียด ตั้งแต่ช่วงจุดเริ่มต้นกบฏโพกผ้าเหลืองใน ค.ศ. 183 จนถึงพระเจ้าจิ้นหวู่ตี้ขึ้นครองราชย์ใน ค.ศ. 265 อย่างละเอียด เพื่อเอากลศึกต่างๆ ที่เกิดในยุคนี้ให้เป็นตำราสงครามให้แก่คนรุ่นหลัง สามก๊กฉบับแรกนี้มีชื่อว่า "ซานกว๋อจื้อ" แต่ซานกว๋อจื้อก็ไม่ได้รับความนิยม
ต่อมาในช่วงใดช่วงหนึ่งระหว่าง ค.ศ. 1330 - ค.ศ. 1400 หลอกว้านจง ก็ได้นำซานกว๋อจื้อมาแต่งใหม่ในรูปแบบนิยายกึ่งประวัติศาสตร์ โดยเนื้อเรื่องนำมาจากซานกว๋อจื้อบ้างและแต่งเพิ่มเองบ้าง ซึ่งเมื่อเทียบกับซานกว๋อจื้อนั้น พบว่ามาจากซานกว๋อจื้อ ร้อยละ 70 และแต่งเอง ร้อยละ 30 โดยประมาณ เรื่องราวที่หลอกว้านจงได้แต่งเพิ่มขึ้นเองที่เด่นๆนั้น มีหลายจุด ซึ่งผู้ที่จำเนื้อเรื่องของสามก๊กได้ทั้งเรื่องควรรู้ เช่น
จุดแรก จุดเริ่มต้นของเรื่อง ฉากที่ เล่าปี่ กวนอู และเตียวหุย ได้กรีดเลือดสาบานเป็นพี่น้องกันนั้น สมัยนั้นยังไม่มีประเพณีการสาบานเป็นพี่น้องกันแบบนี้ มีเพียงการดื่มเลือดสาบานของเหล่าบ่าวรับใช้ว่าจะจงรักภักดีต่อนายเท่านั้น การดื่มเลือดสาบานเป็นพี่น้องนั้นมาจากลัทธิหมิงเจี้ยว ที่เพิ่งเกิดขึ้นและโด่งดังมากในช่วงชีวิตของหลอกว้านจง และหลอกว้านจงได้นำลัทธิหมิงเจี้ยวนี้เอง มาใส่ลงวรรณกรรมสามก๊กของตน และในซานกว๋อจื้อของเฉินโซ่วก็ไม่ได้กล่าวว่ามีการดื่มเลือดสาบานระหว่างเล่าปี่ กวนอู และเตียวหุยแต่อย่างใด
อีกจุดหนึ่งที่เด่นๆ คือ จุดที่กล่าวว่า ขงเบ้งตอนจนตรอกถูกสุมาอี้ยกทัพมากว่าแสนคนจะมายึดเมืองเสเสีย ขณะที่ตนมีเพียงทหารที่ไม่ชำนาญศึกเพียงห้าพันนาย ขงเบ้งจึงเปิดประตูเมืองทุกบาน ให้ทหารปลอมเป็นชาวเมืองและทำกิริยาเหมือนเป็นชาวบ้านกำลังทำกิจวัตรตามปกติ ส่วนขงเบ้งก็ไปนั่งดีดพิณบนกำแพงเมืองอย่างสบายใจ เมื่อสุมาอี้มาถึงเห็นว่าชาวเมืองและขงเบ้งไม่มีอาการตกใจหรือลนลาน ขงเบ้งคงเตรียมการรับมือไว้อย่างดีแล้วกระมัง เราคงสู้ขงเบ้งไม่ได้ สุมาอี้จึงถอยทัพไปเอง จุดที่กล่าวมานี้ไม่มีในซานกว๋อจื้อ แต่หลอกว้านจง นำประวัติศาสตร์จากยุคจิ๋นซีฮ่องเต้มา โดยมีเรื่องราวว่า ในสมัยนั้นจีนก็แตกเป็นแคว้นๆ ดังเช่นยุคสามก๊ก และมีช่วงหนึ่ง รัฐฉู่ยกทัพมาจะรบรับรัฐเจิ้ง รัฐเจิ้งอ่อนแอกว่ารัฐฉู่อย่างเห็นได้ชัด แต่แม่ทัพใหญ่แห่งรัฐเจิ้งได้หลอกชาวเมืองว่ารัฐฉู่มาค้าขายไม่ใช่มารบ ชาวเมืองจึงเชื่อสนิทยกข้าวของมาค้าขายนอกกำแพงรัฐอย่างเอิกเกริก เมื่อทัพฉู่มาถึงก็ตกใจว่าทำไมรัฐเจิ้งไม่ตกใจลนลานกลับทำทุกอย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่จะเป็นกลลวงหรือเปล่า บุกเข้าไปเราคงตายหมดแน่ ทัพฉู่จึงถอยทัพ
หลอกว้านจงจึงนำเรื่องราวนี้มาแต่งเพิ่มลงในสามก๊กฉบับของตน และหลอกว้านจงยังมีการแต่งเพิ่ม หรือดัดแปลงเนื้อเรื่องจากซานกว๋อจื้ออีกหลายจุด เมื่อหลอกว้านจงแต่งเสร็จ สามก๊กของหลอกว้านจงก็เป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน
ฉบับภาษาไทยมีหลายสำนวนแปล ที่โด่งดังคือฉบับของเจ้าพระยาพระคลัง และยาขอบ
วรรณกรรมชิ้นนี้ยังได้รับการยกย่องจากองค์กรยูเนสโกให้เป็นสุดยอดวรรณกรรมชิ้นหนึ่งของโลกด้วย